0
0
สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR เปิดเผยว่า จำนวนประชาชนทั่วโลกที่ถูกบังคับให้กลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัย เพิ่มขึ้นแตะระดับ 110 ล้านคนแล้ว โดยพบว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในยูเครน และซูดาน ทำให้ประชาชนหลายล้านคนจำเป็นต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตนเองเพื่อความปลอดภัย
บุกฟาร์มไข่ไก่ แพงสุดเป็นประวัติการณ์ แตะ 6 บาท/ฟอง คำพูดจาก นสล็อตออนไลน์
คาดภายในปี 2050 คนทั่วโลกอาจปวดหลังกว่า 800 ล้านคน รายงานฉบับดังกล่าวได้รับการเผยแพร่เมื่อวานนี้ โดยชี้ว่า ในระยะเวลาหนึ่งปี นับจากสิ้นปี 2021 จนถึง 2022 มีประชากรที่ถูกบังคับให้กลายเป็นคนไร้บ้านเพิ่มขึ้นอีก 19 ล้านคน กลายเป็น 108.4 ล้านคน
โดยตัวเลข 19 ล้านคนที่เพิ่มขึ้นในหนึ่งปีนั้น นับเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นรายปีที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
และหลังจากนั้น เมื่อเข้าสู่ปี 2023 ตัวเลขคนที่ถูกบังคับให้กลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัยก็ปรับเพิ่มขึ้นจนกลายเป็น 110 ล้านคน โดยส่วนใหญ่ ตัวเลขที่เพิ่มมาในปี 2023 เป็นผลมาจากความขัดแย้งในซูดาน ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา รายงานระบุว่า ในช่วง 20 ปีก่อนที่ซีเรียจะเกิดสงครามกลางเมืองในปี 2011 จำนวนผู้ลี้ภัยและประชาชนที่ไร้ที่อยู่อาศัยทั่วโลกอยู่ที่ราว 40 ล้านคน แต่ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นทุกปี และในเวลานี้ ในทุกๆประชากรโลก 74 คน จะต้องมี 1 คนหรือมากกว่า 1 คนด้วยซ้ำไปที่กลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัย ฟิลิปโป้ แกรนดี้ ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า สาเหตุเกิดมาจากปัจจัยมากมาย ทั้งความขัดแย้ง การกลั่นแกล้ง การเหยียดความแตกต่าง ความรุนแรง และปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ โดยพบว่า ราวครึ่งหนึ่งของตัวเลขคนไร้ที่อยู่อาศัย มาจาก 3 ประเทศ ได้แก่ ซีเรีย ยูเครน และอัฟกานิสถาน แกรนดี้ยังแสดงความเป็นกังวล เกี่ยวกับการเพิ่มความเข้มข้นของบางประเทศ ในการรับผู้อพยพ และการผลักดันผู้อพยพกลับ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ระบุชื่อประเทศ ว่าหมายถึงประเทศใด
